07 ตุลาคม 2552

กฎสำหรับนักรีวิวออนไลน์ในสหรัฐ

ที่มาของเนื้อหา : pantip it news 07/10/2009

กรมการค้าภายในประเทศอเมริกาออกกฎใหม่ให้กับนักรีวิวออนไลน์ว่า บล๊อกเกอร์และรีวิวเวอร์ต้องเปิดเผยหากได้รับเงินตอบแทนในบทความนั้นๆ เมื่อวันที่ ผ่านมาคณะกรรมการการค้าภายใน หรือ (Federal Trade Commission - FTC) ในประเทศสหรัฐอเมริการเปิดเผยถึงการออกกฎหมายใหม่ในการควบคุมบรรดาเหล่า บล๊อกเกอร์และรีวิวเวอร์ที่ใช้พื้นที่ออนไลน์ในการเขียนบทความเกี่ยวกับ สินค้าและบริการใดๆ โดยกฏดังกล่าวบังคับให้บล๊อกเกอร์ที่เขียนบทความเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ใดๆ จำเป็นที่จะต้องเปิดเผยว่าบทความนั้นๆ ได้รับเงินค่าตอบเเทนจากบริษัทเจ้าของสินค้าหรือไม่ เพื่อที่จะเป็นการกรองความคิดเห็นกึ่งโฆษณาให้กับเหล่าผู้บริโภค กฎใหม่ที่กล่าวมานี้จะมีกำหนดการเริ่มใช้ในวันที่ 1 ธันวาคมที่จะถึง และผู้ฝ่าฝืนจะมีค่าปรับเริ่มต้นที่ 11,000 ดอลล่าร์สหรัฐหรือประมาณ 3 ล้านบาทไทย

หมายเหตุ
บางท่านไม่เข้าใจเจตนาว่าผมนำข่าวนี้มาแปะทำไม เมื่อผมกลับมาอ่านก็เห็นด้วยครับ (ฮา..) ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมไว้ตรงนี้ว่า ผมเห็นว่าการเขียนบล๊อกหรือเว็บประเภทที่นำสินค้ามาทดสอบแล้วให้ความเห็นมันคือ เครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง ชนิดหนึ่งครับ บรรยากาศการเล่าจะเหมือนกับผู้ใช้มาเล่าให้คนทั่วไปฟังว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร แต่อาจแฝงไปด้วยการรับจ้างมาเขียน ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นก็เหมือนกับการจ้างนักโฆษณา หรือครีเอทีฟ ไปออกแบบหนังโฆษณามาแล้วถ่ายทำและนำเสนอ นั่นเองครับ ดังนั้นกฏหมายบ้านเขาจึงต้องอุดช่องโหว่ตรงนี้ด้วยการมีค่าปรับ และช่วยป้องกันผู้บริโภคจะถูกหลอกจากหลงเชื่อผิดๆจากการโฆษณาชวนเชื่อนั่นเองครับ

สังเกตุดูสิครับ ในตลาดสำหรับบ้านเรา อะไรที่เห็นภาพดารามาถือโชว์ หรือมาโฆษณาให้ นั่นก็เกือบจะเชื่อไปสนิทใจแล้วว่าผลิตภัณฑ์ที่ดี แหม!! จะว่าไปหากมองมุมกลับแล้ว ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงๆก็มักจะทำไว้เป็นมาตรฐานว่าตัวเองจะโฆษณาด้วยดาราที่สามารถจะเป็น
Brand Ambassador ได้

Did you know?
ข้อพึงระวังในการเลือก Brand Ambassador
1. พรีเซ็นเตอร์อายุมาก อาจจะเป็นการฆ่าตัวโปรดักส์ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ aging เช่น หากพอนด์ใช้ นาถยา แดงบุหงา ก็เหมาะสม เพราะเป็นดาราเก่ามีชื่อเสียง เจาะตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายวัย 40 ขึ้นไป ที่ต้องการลดริ้วรอยแห่งวัย แต่กรณีที่เป๊ปซี่-โค เลือกแหม่ม เป็นพรีเซนเตอร์อย่างต่อเนื่องในทุกๆ sub brand ที่อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยง เพราะด้วยความเป็นดาราระดับนางเอกและพิธีกรมีชื่อเสียง ไม่ได้สื่อถึงความหมายของ Lay’s Selection สินค้าระดับพรีเมียม ได้โดยสมบูรณ์
2. แม้ว่ากลยุทธ์การใช้ดารา นักร้อง และซูเปอร์ สตาร์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าจะประสบผลสำเร็จ สามารถเป็นแม็กเน็ตในการดึงดูดความสนใจได้ และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว แต่เจ้าของแบรนด์ต้องระวังว่าผู้บริโภคจะจำพรีเซ็นเตอร์ได้มากกว่าตราสินค้า หรือหากเกิดกรณีดาราหรือพรีเซ็นเตอร์มีภาพลักษณ์ในเชิงลบในอนาคต ก็อาจจะเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าได้
3. นอกจากนี้ควรเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่ไม่มีผลงานซ้ำกัน มีบุคลิกชัดเจน ตรงกับแบรนด์สินค้า เพื่อให้เกิดการจดจำได้ง่าย รวมทั้งไม่ถูกกระแสความดัง และผลงานของศิลปินมากลบกระแสการรับรู้แบรนด์สินค้าไปจนหมดสิ้น!!!
ที่มา : www.positioningmag.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณมีอะไรจะกล่่าวเสริมหรือบอกเล่าอะไรสักนิดไหมครับ?