สวัสดีครับท่านผู้อ่าน พบกันอีกครั้งกับคอลัมน์ System Focus ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจเครือข่าย นำเสนอแง่คิด รายละเอียดเชิงวิชาการ แก่ท่านในมุมมองของนักพัฒนาโปรแกรม และระบบคอมพิวเตอร์สำหรับงานบริหารธุรกิจเครือข่ายครับ ครั้งนี้มาต่อกันที่ แผนการตลาดระบบไบนารี่ ตอนที่ 3 ครับ ท่านใดพลาดเนื้อหาในตอนไหน รบกวนอ่านจากหนังสือพิมพ์เล่มเก่าหรีอทางเว็บไซต์ http://www.taladvikrao.com/ หรือ http://iyaraplanet.blogspot.com/ ครับ เอาล่ะครับเรามาติดตามแผนการตลาดระบบไบนารี่กันต่อเลยดีกว่า
แผนการตลาดระบบไบนารี่ (3) : เรื่องของขาอ่อน
เพื่อสร้างบรรยากาศ และความน่าสนใจ ขอใช้ภาษาการตลาดมาเรียกลูกค้าหน่อยครับ เรื่องของขาอ่อนนี่ท่านผู้ชายหลายท่านฟังแล้วคงสนใจขึ้นมาบ้าง (....ฮา) ส่วนคุณผู้หญิงฟังแล้วคงเฉยๆ.... แต่เรื่องของขาอ่อนที่ผมนำมาพูดถึงนี่ไม่ได้หมายถึงขาของสาวๆหรอกนะครับ เป็นเรื่องของแผนการตลาดเหมือนเดิม เรื่องของเรื่องก็คือแผนการตลาดไบนารี่นั้น ในบางครั้งอาจเรียกไปในอีกชื่อตามการพิจารณาโบนัส โดยเทคนิคพิจารณาจาก "แต้ม" ที่ได้ในขาใดขาหนึ่งคือไม่ดูที่ "ขาอ่อน" (Weak Leg) ก็ดูที่ "ขาแข็ง" (Strong Leg) และอาจใช้ชื่อแผนระบบ "Weak Leg - Strong Leg" แทนคำว่า "Binary" ครับ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำนี้ ก็ขอให้ทราบเลยว่า มันเป็นเรื่องเดียวกันครับ ต่างกันที่มุมมองเท่านั้นเอง แต่เท่าที่สัมผัสกันมานั้น นักธุรกิจเครือข่ายบางท่านแม้จะมีดีกรีเป็นถึงวิทยากรบรรยายแผนการตลาด ก็ยังคิดว่าเจ้า Weak Leg - Strong Leg มันเป็นคนละเรื่องกันกับ แผน Binary แถมบางท่านบรรยายว่าแผนแบบ Weak Leg นี้จ่ายมากกว่า Binary อีกด้วย แฟนประจำคอลัมน์ผมคงไม่คิดแบบนั้นใช่ไหมครับ แต่ใครที่ยังเข้าใจแบบนั้นอยู่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะมีหลายคนยังคิดเหมือนท่านนั่นแหละ อย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ ลองมาตามล่าความจริงจากตัวอย่างกันดีกว่า
เริ่มจากดูภาพกันก่อนครับ สำหรับ ภาพที่ 1 นั้น (เรียกว่าฝ่ายแดง ตามกระแสโอลิมปิคฟีเวอร์ครับ) เรามาทวนกันหน่อยครับ เราจะเห็นว่า แผนไบนารี ใช้วิธีการ Balance แต้ม/คะแนน หรือการจับคู่นั่นเอง ซึ่งคะแนนจะจับคู่หรือ Balance ได้นั้นจะต้องมีแต้มทั้งสองข้าง มีแต้มมาข้างเดียวจะเรียกว่าจับคู่ได้อย่างไร? จริงไหมครับ เมื่อได้จำนวนคู่มาแล้วก็เอามาคูณกับอัตราจ่ายที่ระบุในแผนการตลาด เช่น คู่ละ 500 เป็นต้น
ทีนี้ตามมาดู ฝ่ายน้ำเงินกันบ้างเป็นแผนแบบ Weak Leg หรือ Strong Leg ภาพที่ 2 ครับ ผมสมมุติเป็นระบบพิจารณาจากขาอ่อนก่อนนะครับ (Weak Leg) เพราะดูจะน่านิยมกว่าพิจารณาขาแก่ (...ฮา) เพราะท่านอาจไม่อ่านต่อเนื่องจากจินตนาการไม่เห็นอะไรนอกจากรอยย่น (...ฮา) สำหรับการพิจารณาจากขาอ่อนนั้น เขาจะดูว่าขาอ่อนนั้นมีกี่คะแนน เขาก็จะจ่ายเป็น % ของคะแนนขายที่ได้รับมาครับ และยังกำหนดไว้ว่าจะนับให้กี่คะแนนต่อรอบการประมวลผล จากภาพนี้สมมุติว่าแผนระบุว่าจ่าย 25% ของขาอ่อน พอมีการสั่งซื้อมา 2000 คะแนน ก็จ่าย 2000x25% = 500 เป็นต้น
เพื่อสร้างบรรยากาศ และความน่าสนใจ ขอใช้ภาษาการตลาดมาเรียกลูกค้าหน่อยครับ เรื่องของขาอ่อนนี่ท่านผู้ชายหลายท่านฟังแล้วคงสนใจขึ้นมาบ้าง (....ฮา) ส่วนคุณผู้หญิงฟังแล้วคงเฉยๆ.... แต่เรื่องของขาอ่อนที่ผมนำมาพูดถึงนี่ไม่ได้หมายถึงขาของสาวๆหรอกนะครับ เป็นเรื่องของแผนการตลาดเหมือนเดิม เรื่องของเรื่องก็คือแผนการตลาดไบนารี่นั้น ในบางครั้งอาจเรียกไปในอีกชื่อตามการพิจารณาโบนัส โดยเทคนิคพิจารณาจาก "แต้ม" ที่ได้ในขาใดขาหนึ่งคือไม่ดูที่ "ขาอ่อน" (Weak Leg) ก็ดูที่ "ขาแข็ง" (Strong Leg) และอาจใช้ชื่อแผนระบบ "Weak Leg - Strong Leg" แทนคำว่า "Binary" ครับ ดังนั้นเมื่อได้ยินคำนี้ ก็ขอให้ทราบเลยว่า มันเป็นเรื่องเดียวกันครับ ต่างกันที่มุมมองเท่านั้นเอง แต่เท่าที่สัมผัสกันมานั้น นักธุรกิจเครือข่ายบางท่านแม้จะมีดีกรีเป็นถึงวิทยากรบรรยายแผนการตลาด ก็ยังคิดว่าเจ้า Weak Leg - Strong Leg มันเป็นคนละเรื่องกันกับ แผน Binary แถมบางท่านบรรยายว่าแผนแบบ Weak Leg นี้จ่ายมากกว่า Binary อีกด้วย แฟนประจำคอลัมน์ผมคงไม่คิดแบบนั้นใช่ไหมครับ แต่ใครที่ยังเข้าใจแบบนั้นอยู่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะมีหลายคนยังคิดเหมือนท่านนั่นแหละ อย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ ลองมาตามล่าความจริงจากตัวอย่างกันดีกว่า

ทีนี้ตามมาดู ฝ่ายน้ำเงินกันบ้างเป็นแผนแบบ Weak Leg หรือ Strong Leg ภาพที่ 2 ครับ ผมสมมุติเป็นระบบพิจารณาจากขาอ่อนก่อนนะครับ (Weak Leg) เพราะดูจะน่านิยมกว่าพิจารณาขาแก่ (...ฮา) เพราะท่านอาจไม่อ่านต่อเนื่องจากจินตนาการไม่เห็นอะไรนอกจากรอยย่น (...ฮา) สำหรับการพิจารณาจากขาอ่อนนั้น เขาจะดูว่าขาอ่อนนั้นมีกี่คะแนน เขาก็จะจ่ายเป็น % ของคะแนนขายที่ได้รับมาครับ และยังกำหนดไว้ว่าจะนับให้กี่คะแนนต่อรอบการประมวลผล จากภาพนี้สมมุติว่าแผนระบุว่าจ่าย 25% ของขาอ่อน พอมีการสั่งซื้อมา 2000 คะแนน ก็จ่าย 2000x25% = 500 เป็นต้น

เรื่องของแผนไบนารี่ ที่ตั้งใจอธิบายลงลึก และเล่ากันมายาวขนาดนี้ เพราะมันมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ได้รับความนิยมนำไปใช้กันหลายบริษัท และปรับใช้เทคนิคกันอย่างหลากหลาย ไบนารี่เหมือนกัน แต่ก็ยังต่างกันได้ ดังนั้นคงค่อยๆเล่ากันไปครับ ฉบับนี้ก็ยังเล่าไม่จบอีกแล้วครับ เอาไว้คุยเรื่องไบนารี่กันต่อฉบับหน้าครับ
สวัสดีครับ
ขอบคุณจ้าว
ตอบลบ