11 มิถุนายน 2553

หัดเรียนรู้จากอดีตไว้บ้่าง

เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก ไม่ว่าประสบการณ์ในอดีตจะเลวร้ายแค่ไหน พวกเรามักจะพากันลืมเหตุการณ์เหล่านั้นไปจนหมดสิ้น นี่ยังไม่นับรวมถึงการจะนำเอามาวิเคราะห์ จุดประเด็นคิด ว่าทำไมมันจึงเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นได้ นั่นคือ พวกเรามักจะให้ความสนใจกับประวัติศาสตร์ เรื่องราวในอดีต กันน้อยมากๆ ซึ่งนี่เองเป็นที่มาของ "ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย" ครั้งแล้วครั้งเล่า

วันนี้ผมจะมาชวนท่านทั้งหลายย้อนอดีตกันครับ เริ่มจากเราก่อนก็ได้ ย้อนไปถึงวันที่ท่านผิดพลาด ล้มเหลว ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ท่านผิดตรงไหน และจะแก้ไขมันอย่างไรหากท่านสามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่ผมจะไม่แปลกใจเลยหากท่านจะคิดไม่ออกว่าท่านผิดอย่างไรบ้าง เพราะคนเรามีกลไกป้องกันตัวเองทางจิตวิทยา เพื่อรักษาไว้ซึ่งคุณค่าของตัวเราเอง เรามีตรรกะประหลาดๆ ดังนี้ครับ

1. หากประสบความสำเร็จเป็นเพราะเรานี่แหละ แต่หากล้มเหลวเป็นเพราะคนอื่น หรือบางคนเป็นนักกีฬาก็บอกว่า ชนะก็เพราะทีมเราเก่งโค้ชเก่ง แต่พอแพ้ขึ้นมาก็บอกว่า ฝ่ายตรงข้ามเล่นโกง กรรมการตัดสินลำเอียง ฯลฯ ผมคงไม่ต้องขยายความประโยคนี้นะครับ มันชัดเจนอยู่แล้ว แต่หากท่านไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่ากันครับแสดงว่างท่านเป็นคนซื่อตรงต่อตัวเองมากๆ ทั้งชีวิตไม่เคยมีความลำเอียงใดๆ

2. เราเคยคาดไว้ก่อนแล้วว่าจะล้มเหลว แต่ที่ทำมานี่ก็เพราะยอมทำตามใครบางคนสั่งให้ทำแบบนั้น ในการตัดสินใจเลือกสิ่งใดๆคนเรามักจะมีความคิดสองด้านอยู่แล้วครับ ยิ่งท่านเป็นคนมีเหตุผลมากเท่าไหร่ ท่านยิ่งจะเกิดการชั่งน้ำหนักของทางเลือกทั้งหมดว่าแบบไหนดีอย่างไร และเมื่อท่านเลือกผิดท่านก็จะกลับไปคิดได้ว่า ว้า..รู้งี้ทำแบบนั้นซะดีกว่า เราเข้าใจถูกแล้วแต่เลือกผิด อะไรทำนองนั้น โดยเฉพาะการเลือกผิดก็เพราะอาจอยู่ในอาการถูกกดดัน ถูกบีบด้วยเวลา ถูกคะยั้นคะยอต่างๆ แต่เมื่อคิดถูกหรือประสบความสำเร็จจากความคิดนั้น เรื่องที่เราเคยชั่งใจไว้และให้น้ำหนักหรือชอบๆด้านที่สุดท้ายไม่ได้เลือกอยู่บ้าง เรากลับลืมมันไปเสียทันที! (แปลกไหมล่้ะครับ)

ตรรกะประหลาดทั้งสองข้อนี้แหละครับที่สำคัญ หากเรายังใช้ตรรกะแบบนี้อยู่ ผมเชื่อว่าท่านจะมีความสุขดำรงชีวิตอยู่ได้ตามประสา และมีความมั่นใจในตัวเองได้อยู่บ้างตามธรรมชาติ แต่หากท่านไม่เคยมีโอกาสโทษตัวเองได้อย่างเที่ยงธรรมเลย ท่านก็จะเป็นคนที่อ่อนแอและเป็นคนปัดความรับผิดชอบต่อสถานการณ์ไปเรื่อยๆ เพราะไม่ว่าท่านจะได้รับผลอย่างไร ท่านก็ไม่เคยคิดว่าตนเองผิดเข้าแบบจริงๆจังๆ จนกระทั่งต้องปรับปรุงแก้ไขตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะนำท่านไปสู่การไม่รู้จักเรียนรู้ และไม่พัฒนา เพื่อศึกษาความจริงข้อนี้ผมอยากแนะนำว่า หากเป็นไปได้ท่านควรบันทึกเหตุผลและการตัดสินใจเลือกทำหรือไม่ทำสิ่งใด เลือกตอบหรือไม่ตอบอย่างไร เพราะเหตุใดไว้ทุกครั้ง แล้วท่านจะหลีกเลี่ยงตรรกะประหลาดๆที่ผมเรียกว่า กลลวงทางจิตใจ ออกมาได้ และเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ในที่สุด ใช่ครับ ผมแนะนำให้ท่านจดบันทึกส่วนตัว เหมือนๆกับที่มืออาชีพหลายๆคนที่ต้องใช้การตัดสินใจแก้ปัญหา หรือตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกอะไรบางอย่าง โดยที่การกระทำแต่ละครั้งค่อนข้างสำคัญและเกิดผลไม่ทางดีก็ทางร้ายอย่างชัดเจน เมื่อจดบันทึกไว้ท่านจะทราบทุกอย่างตามความเป็นจริง และสิ่งที่เราเรียนรู้จากอดีต คือประสบการณ์นั่นเอง

หวังว่าหัวข้อนี้จะมีประโยชน์ต่อท่านทั้งหลายบ้างตามสมควร ขอบคุณที่ติดตามครับ
ไอยรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว คุณมีอะไรจะกล่่าวเสริมหรือบอกเล่าอะไรสักนิดไหมครับ?